ส่งต่อวิธีพ่วงแบตเตอรี่รถเมื่อรถแบตหมด เรื่องง่าย ๆ ที่สาว ๆ ก็ทำได้

ส่งต่อวิธีพ่วงแบตเตอรี่รถเมื่อรถแบตหมด เรื่องง่าย ๆ ที่สาว ๆ ก็ทำได้

จะทำอย่างไรหากอยู่ ๆ รถที่ขับมาดี ๆ ในทีแรก กลับสตาร์ทไม่ติดเสียอย่างนั้น มีเพียงเสียงดังแชะ ๆ แทรกออกมาในขณะที่บิดกุญแจ อาการลักษณะนี้บ่งบอกถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์จ่ายไฟอย่างแบตเตอรี่ ว่าไม่แบตหมดก็ต้องเสื่อมสภาพเป็นแน่ วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือหาแบตเตอรี่ลูกใหม่มาเปลี่ยน แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนนั้น คุณจำเป็นต้องพวงแบตจากรถอีกคัน เพื่อให้รถมีกำลังไฟเพียงพอที่จะสตาร์ทติดอีกครั้งจนสามารถขับไปเปลี่ยนแบตลูกใหม่ที่ร้านแบตเตอรี่ได้ แต่ระหว่างรอพ่วงแบตต้องไม่ลืมที่จะดันรถไปจอดยังที่ที่ปลอดภัย เลี่ยงการจอดข้างถนนหรือไหล่ทาง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนต้องเรียกประกันรถยนต์มาแทนการเรียกหารถอีกคันเพื่อขอพ่วงแบต

วิธีพ่วงแบตเตอรี่แบบง่าย ที่ไม่ว่าคุณหรือใครก็ทำได้ทั้งนั้น

1. เริ่มจากโบกขอความช่วยเหลือรถที่ขับผ่านไปมา แต่ถ้าอยู่ในแหล่งชุมชนไม่ไกลบ้านคุณมากนัก แนะนำให้นึกถึงคนใกล้ตัวเข้าไว้ แล้วจัดการโทรตามมาขอพ่วงแบตโดยด่วน

2. หลังจากได้ความช่วยเหลือเรื่องรถจากผู้ใจบุญมาแล้ว ก่อนอื่นให้รถคันที่มีแบตจอดด้านบริเวณด้านหน้ารถคันที่แบตหมดแล้วดับเครื่อง เปิดฝากระโปรงรถทั้งสองคัน

3. นำอุปกรณ์เสริมที่รถทุกคันควรมีติดรถไว้อย่างชุดอุปกรณ์สายพ่วงแบตเตอรี่ และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

– สายพ่วงแบตนั้นจะมีด้วยกัน 2 สี คือ สีแดงและสีดำ  จำไว้ให้แม่นว่าต้องเริ่มที่สายสีแดง โดยนำไปหนีบไว้กับขั้วบวกของรถที่แบตหมด

– แล้วนำปลายอีกข้างของสายสีแดงไปหนีบไว้ที่ขั้วบวกของรถคนที่มาช่วยพ่วงแบตเตอรี่ ซึ่งการดูว่าขั้วบวกของแบตเตอรี่นั้นอยู่ตรงไหน สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์เครื่องหมายบวก (+) หรือแบตเตอรี่บางรุ่นจะใช้พลาสติกหรือยางสีแดงครอบบริเวณขั้วบอกไว้

– มาที่สายพ่วงแบตเตอรี่อีกสาย สายสีดำ โดยให้นำไปหนีบไว้ที่ขั้วลบ (-) ของรถคันที่มาช่วยพ่วงแบต

– นำปลายสายสีดำอีกฝั่งไปหนีบไว้ที่โลหะ อาทิ ตัวถัง หรือหัวน็อตที่อยู่ใกล้กับกล่องแบตเตอรี่ของรถคันที่แบตเตอรี่หมด ห้ามนำไปต่อที่ขั้วลบโดยตรงโดยเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดแบตเตอรี่ระเบิดจนเกิดอันตรายได้

4. เมื่อต่อสายพ่วงแบตเรียบร้อยแล้วให้สตาร์ทรถคันที่มีแบต ติดเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที และเหยียบคันเร่งเบา ๆ เพื่อให้รถเกิดการไหลเวียนของประจุไฟฟ้า

5. เมื่ออุ่นเครื่องรถคันที่มีแบตจนได้ที่ ให้หันมาสตาร์ทรถคันที่แบตหมด และเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งเครื่องจนถึงระดับ 1,500-2,000 รอบ/นาที ทำจนกว่ารถจะติด และเมื่อสตาร์ทติดแล้วให้อุ่นเครื่องโดยที่ยังไม่ต้องถอดสายพ่วงแบตออกไว้สักพัก เมื่ออุ่นเครื่องจนได้ที่แล้วจึงค่อยทำการดึงสายพ่วงแบตออก เป็นอันเสร็จขั้นตอนพ่วงแบตเตอรี่ที่แสนง่าย

ระวัง! อย่ามองข้ามความปลอดภัย

1. ระวังและสังเกตบริเวณโดยรอบขณะพ่วงแบตเตอรี่ ห้ามไม่ให้มีประกายไฟโดดเด็ดขาด เพื่อป้องกันเหตุระเบิดรถเกิดไฟไหม้จนต้องใช้บริการประกันรถยนต์ที่ได้ซื้อความคุ้มครองไว้

2. จงใช้สติให้มากขณะทำการพ่วงแบตเตอรี่ อย่าตื่นเต้นตกใจจนไม่ทันระวังปลายสายที่ใช้พ่วงแบตสัมผัสต้องกัน เป็นเหตุให้รถของคุณเกิดไฟฟ้าลัดวงจรสร้างความเสียหายที่มากขึ้นไปอีก

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำกรดในแบตเตอรี่ หากรถของคุณยังใช้แบตรุ่นที่ต้องเติมน้ำกรดอยู่

ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนและข้อควรระวังในการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เห็นไหมว่าง่ายนิดเดียว เชื่อได้ว่าคุณต้องทำได้สำเร็จและปลอดภัยอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือคุณควรเตรียมสายพ่วงแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพติดรถเอาไว้ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ เป็นอุปกรณ์ที่รถทุกคันควรมีเหมือนกับที่คุณเลือกซื้อประกันรถยนต์เพื่อเสริมความคุ้มครองไว้ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่วนใครที่กำลังสนใจจะต่อประกันรถ แต่ยังลังเลตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าประกันแบบไหน จากบริษัทใด ที่เหมาะกับรถและพฤติกรรมการใช้รถของคุณ ให้ Easy Compare เป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจ มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้ประกันรถยนต์ที่ความคุ้มครองคุ้มค่าที่สุดกลับไปอย่างแน่นอน