ทุกๆ วันของเรานั้น ต่างก็ต้องใช้ชีวิตทำสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ก็ดี การทำงานตามสายอาชีพและพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นในทุกเวลาๆ เราสามารถประสบพบเจอกับอับุติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอๆ การที่เราสามารถป้องกันตนเองและวางแผนอนาคตที่ดีได้…คงจะเป็นสิ่งที่เซฟกับทั้งตัวเราและคนรอบข้างมากที่สุดนั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านมารู้จักกับ “ข้อดีของการทำประกันชีวิต” กันครับ
ประกันชีวิตตามความหมายของ คปภ. เป็นอย่างไร?
ประกันชีวิต หมายถึง ข้อตกลงหรือเอกสารกรมธรรม์ที่จะมีการชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจาก การตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพ โดยบริษัทประกันชีวิต จะจ่ายเงินตามจํานวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ ตามที่กําหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับบริษัทและกรมธรรม์การคุ้มครองฉบับนั้นๆ เป็นหลัก โดยประกันชีวิตจะถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบ อันได้แก่…
1) แบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance) ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คือ การประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในชั่วระยะเวลาอันจำกัด โดยที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี แต่ถ้าพ้นกำหนดระยะเวลาในการคุ้มครองไปแล้วผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่ สัญญาถือเป็นอันสิ้นสุดลงผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับเงินชดเชยตามที่ได้ตกลงกันไว้
2) แบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) คือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ที่จะเป็นแบบจ่ายเบี้ยประกันเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยผู้เอาประกันเลือกได้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันแบบไหน เช่น 10 ปี, 15 ปี หรือ 20 ปี หรือใช้อายุเป็นตัวกำหนดก็ได้ เช่น จ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 50 ปี หรือ 55 ปี ในขณะที่จะได้รับความคุ้มครองไปตลอดชีวิตของผู้เอาประกัน และหากผู้เอาประกันเสียชีวิต (ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม) บริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์เท่ากับจำนวนทุนประกันที่ผู้เอาประกันได้ซื้อไว้ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งกำหนดระยะเวลาสุดท้ายของสัญญา เช่นที่อายุ 90 ปี หรือ 99 ปี
3) แบบสะสมทรัพย์ (Endowment/Saving Insurance) เป็นการให้ความคุ้มครองและเป็นการออมทรัพย์ของผู้เอาประกันด้วย ซึ่งจะได้รับเงินจำนวนที่เอาประกันไว้อย่างแน่นอน เหมาะสำหรับประกันเพื่อสะสมทรัพย์เป็นทุนการศึกษาของบุตร หรือผู้เอาประกันมีโครงการจะสะสมเงินไว้เพื่อเป็นทุนสำหรับประกอบธุรกิจในอนาคต
4) แบบเงินได้ประจํา/แบบบํานาญ (Annuity Insurance) คือ การออมเงินระยะยาวในรูปแบบประกันชีวิต ช่วยเก็บออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ และให้ความคุ้มครองชีวิตในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเป็นประจำให้แก่ผู้เอาประกันภัย หากมีชีวิตอยู่ในวันที่ครบกำหนดสัญญา และจะจ่ายเป็นรายปีทุกๆ ปี จนครบตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้นั้นเองครับ
ข้อดีของการทำประกันชีวิต
●ช่วยในเรื่องของการออมทรัพย์ทั้งในยามมีและยามฉุกเฉิน การทำประกันภัยสามารถช่วยในเรื่องของการออมได้ โดยตัวมันเองนั้นจะเป็นในลักษณะแบบกึ่งบังคับ โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องแบ่งรายได้ของตนส่วนหนึ่ง เพื่อนำมาชำระเบี้ยประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการประหยัดเพื่อการออมทรัพย์ สามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อไว้ใช้ยามชรา หรือออมไว้เพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน
●สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของผู้เอาประกันภัย การประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ ในกรณีการทำประกันคุ้มครองการเจ็บป่วย หรือการประกันอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินทดแทนเพื่อใช้ในการเลี้ยงชีพในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงได้
●สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ผู้ที่ทำประกันชีวิตก็สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับแบบทั่วไป และ 200,000 บาทสำหรับแบบบำนาญ
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ข้อดีของการทำประกันชีวิต” ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกๆ ท่านได้อ่านและพิจารณาในการทำประกันชีวิตกันนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้ได้แผนประกันชีวิตตามที่ต้องการและลงตัวที่สุดครับ
